รถใหม่เปิดตัวพร้อมจองAll NEW Toyota Alphard HEV Luxury E-Four (40-Series) หรูหราพรีเมียมอีกระดับ All NEW Toyota Alphard HEV Luxury E-Four (40-Series)นำเข้าจากญี่ปุ่นโดย โตโยต้า ประเทศไทย
All NEW Toyota Alphard HEV Luxury E-Four ราคา 4,129,000 – 4,499,000 บาท
ราคารุ่นย่อยของAll NEW Toyota Alphard HEVราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากญี่ปุ่น) โดย โตโยต้า ประเทศไทย Officially Authorized Toyota Motor Thailand
- Alphard 2.5 HEV E-Four 4,129,000 บาท
- Vellfire 2.5 HEV E-Four 4,279,000 บาท
- Alphard 2.5 HEV Luxury E-Four Executive Lounge 4,499,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 Hybrid ขับสี่ 250 แรงม้า รับประกันแบต 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เบาะ Lounge ปรับไฟฟ้า, หลังคา Twin Sunroof, ล้อ 19 นิ้ว ฯลฯ
Dimension มิติตัวถัง
All NEW Alphard / Vellfire
– ยาว 5,005 – 5,100 มิลลิเมตร
– กว้าง 1,850 มิลลิเมตร
– สูง 1,945 – 1,950 มิลลิเมตร
– ระยะฐานล้อ Wheelbase 3,000 มิลลิเมตร
– ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 160 มิลลิเมตร
– ความจุถังน้ำมัน รุ่น 2.5 Hybrid ขนาด 60 ลิตร
เทียบกับรุ่นเดิม 4,945 x 1,850 x 1,895 มม. พบว่ารุ่นใหม่ ยาวขึ้น 65 มิลลิเมตร กว้างเท่าเดิม สูงขึ้น 55 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อเท่าเดิม
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 2.5 Hybrid E-Four
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส A25A-FXS 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 87.5 x 103.4 มิลลิเมตร พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 236 นิวตันเมตร ที่ 4,300 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 5NM พละกำลัง 182 แรงม้า 270 นิวตันเมตร และ มอเตอร์ตัวหลัง 4NM พละกำลัง 54 แรงม้า 121 นิวตันเมตร
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT แบตเตอรี่ Ni-MH ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four รองรับน้ำมันสูงสุด E10
Alphard 2.5 HEV E-Four 4,129,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน
– เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 + มอเตอร์ไฟฟ้า 250 แรงม้า
– ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four
– ช่วงล่าง ด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
– ช่วงล่าง ด้านหลัง อิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
– ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสก์เบรก / ด้านหลัง ดิสก์เบรก
– ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว
– ยาง ขนาด 235/65 R17
– ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED
– ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
– ไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential
– ระบบไฟหน้า Follow-Me-Home
– ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
– ไฟตัดหมอกด้านหลัง
– กระจกบังลมหน้า แบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass
– หลังคา Twin Sunroof แบบแนวตั้ง Vertical ด้านหลัง
Interior ภายในห้องโดยสาร
– มาตรวัด Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว
– หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า HUD ขนาด 12.3 นิ้ว
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
– ฟังก์ชั่น Auto Brake Hold
– พวงมาลัย ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า
– พวงมาลัย พร้อมระบบอุ่น Heated Steering
– คอนโซลหน้า บุ่นุ่มหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยตะเข็บด้ายจริง
– ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี
– โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ EV Mode / Normal Mode / ECO Mode
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 4-Zones
– ระบบหมุนเวียนอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบ S-Flow
– ระบบฟอกอากาศ – ปรับสมดุลอากาศ Nano X
– ช่องแอร์ส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลังบนเพดาน
– กระจกมองหลังแบบดิจิตอล
– ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตซ์ควบคุมภายนอกรถบริเวณไฟท้าย
– ม่านบังแดดกระจกหน้าต่างแถวที่ 2 / แถวที่ 3 ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
– ม่านบังแดดแบบทึบ หลังคา Twin Sunroof ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
Seating เบาะนั่ง
– เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Premium Nappa
– เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– ระบบบันทึกความจำเบาะนั่ง Memory Seat 3 ตำแหน่ง
– เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบระบายอากาศ Seat Ventilator / อุ่นเบาะ Heated Seat
– เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบ Welcome Seat
– เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
– ปุ่มปรับเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า เลื่อน/เอน ด้านข้างเบาะ
– เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมระบบระบายอากาศ Seat Ventilator / อุ่นเบาะ Heated Seat
– เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Lounge ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง
– หน้าจอควบคุมด้านหลัง Detachable Tablet
– เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมที่รองน่อง ปรับด้วยไฟฟ้า
– เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบบันทึกความจำเบาะนั่ง 2 ตำแหน่ง
– เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบระบายอากาศ Seat Ventilator
– เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบนวด Massage Relaxation
– ระบบ Smart Comfort Program 5 รูปแบบ
>> My Original
>> Dream
>> Relax
>> Focus
>> Energize
– สวิตซ์ควบคุมเบาะนั่งแถวที่ 2 บริเวณที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
– เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกอิสระ 50 : 50 พับเก็บแบบแขวน
– เบาะนั่งแถวที่ 3 เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้
– เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับเอนได้
Entertainment ระบบความบันเทิง
– หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 14 นิ้ว
– รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
– ระบบนำทาง Navigation System
– ระบบเชื่อมต่อ T-Connect Telematics
– ระบบเสียงรอบทิศทาง JBL ลำโพง 15 ตำแหน่ง
– ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
– ช่องชาร์จไฟ USB ด้านหน้า 3 ตำแหน่ง
– ช่องชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 4 ตำแหน่ง (แถวที่ 2 / แถวที่ 3)
– ช่องชาร์จไฟ 12V
Safety ระบบความปลอดภัย
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรก BA
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
– ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
– ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
– ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
– ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
– ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Safe Exit Assist
– ระบบ Toyota Safety SENSE
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control
– ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
– ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Warning With Steering Assist
– ระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Tracing Assist
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed Stop & Go
– ระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง เมื่อเปิดระบบ Dynamic Radar Cruise Control
– ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS
– ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC
– กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor
– ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
>> คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
>> ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
>> ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
– จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
– เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง
– เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
– ระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อม Speed Auto Lock
– กล้องบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้า – ด้านหลัง Camera Recorder แบบ Built-in
Vellfire 2.5 HEV E-Four 4,279,000 บาท
สิ่งที่เพิ่มมาจากรุ่น Alphard 2.5 HEV E-Four + 150,000 บาท
– ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว
– ยาง ขนาด 225/55 R19
– ดีไซน์ด้านหน้า – ไฟหน้า แบบสปอร์ต เฉพาะรุ่น Vellfire
– ดีไซน์ด้านหลัง – ไฟท้าย แบบสปอร์ต เฉพาะรุ่น Vellfire
Alphard 2.5 HEV Luxury E-Four Executive Lounge 4,499,000 บาท
สิ่งที่เพิ่มมาจากรุ่น Vellfire 2.5 HEV E-Four + 220,000 บาท
– เบาะนั่งแบบ Executive Lounge ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง
– หน้าจอควบคุมด้านหลัง Detachable Tablet แบบ Built-in
– โต๊ะส่วนตัว แบบพับเก็บได้ พร้อมกระจกแต่งหน้า
– วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลายไม้ Uzuramoku
– ระบบฟอกอากาศ – ปรับสมดุลอากาศ Nano X สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 3 สี
Alphard / Vellfire
– สีเทา Precious Metal (1L5)
– สีขาว Platinum White Pearl (089)
– สีดำ Black (202)
ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 3 สี (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
Alphard 2.5 HEV E-Four
– สีดำ Black
– สีเบจ Neutral Beige
Vellfire 2.5 HEV E-Four
– สีดำ Black
Alphard 2.5 HEV Luxury E-Four Executive Lounge
– สีดำ Black
– สีน้ำตาล Sunset Brown